บมจ. พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป (PRTR) ผู้นำด้าน Total HR Solutions เผยแนวโน้ม Q2/68 เดินหน้าขยายฐานลูกค้าในธุรกิจจัดจ้างพนักงาน (Outsource) อย่างต่อเนื่อง รับแรงหนุนจากองค์กรที่ต้องการความยืดหยุ่นในการบริหารบุคลากร แม้ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะเดียวกัน ธุรกิจใหม่ “PINNO” และ “The Blacksmith” เติบโตโดดเด่นตามกระแส HR Tech โดยมีจำนวนผู้ใช้งานและลูกค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าจะสามารถ breakeven และเริ่มสร้างกำไรได้ภายในปีนี้ พร้อมกันนี้ บริษัทยังเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์การเติบโตผ่านการลงทุนเชิงรุก ล่าสุดประกาศปิดดีล M&A เข้าซื้อกิจการธุรกิจบริการคนขับรถและแม่บ้าน ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป หนุนพอร์ตธุรกิจ Outsource ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น มั่นใจรายได้ปี 68 เติบโตตามแผนที่วางไว้ 10–15%

นางสาว ริศรา เจริญพานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PRTR ผู้นำด้านโซลูชันทรัพยากรบุคคลแบบครบวงจร (Total HR Solutions) เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 2/2568 ยังคงขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจจัดจ้างพนักงาน (Outsource) ซึ่งมีรายได้แบบ Recurring Income มากกว่า 95% สะท้อนถึงความมั่นคงในการรับรู้รายได้ต่อเนื่องในระยะยาว พร้อมกับวางกลยุทธ์มุ่งขยายฐานลูกค้าใหม่ควบคู่กับการรักษาฐานลูกค้าเดิม ปรับพอร์ตการให้บริการไปสู่ Job Function ที่มีอัตรากำไรสูงขึ้น เช่น กลุ่มวิศวกรเฉพาะทาง ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2568 เติบโต 10-15% จากปีก่อนอยู่ที่ 7,367 ล้านบาท

​ด้านธุรกิจใหม่เดินหน้าตามแผน สะท้อนความต้องการโซลูชัน HR Tech ในองค์กรยุคใหม่ โดยไฮไลท์จากธุรกิจให้บริการซอฟต์แวร์ด้านการบริหารจัดการบุคลากร ภายใต้ PINNO มีการเติบโตโดดเด่น ในไตรมาส 2 ปีนี้ มีกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เริ่มให้บริการพัฒนาระบบเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีกกว่า 4,500 ราย จากสิ้นไตรมาส 1/2568 มีผู้ใช้งานประมาณ 43,000 ราย เข้าใกล้เป้าหมายที่วางไว้ 50,000 รายในปีนี้ จึงคาดว่า PINNO จะสามารถ breakeven ถึงจุดคุ้มทุนได้ตามนัด พร้อมกับสร้างกำไรแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับ ธุรกิจให้บริการฝึกอบรม (Integrated Learning Service)ภายใต้ The Blacksmith ที่มียอดลูกค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และจะทยอยรับรู้รายได้ตามรอบการอบรมของลูกค้า  

​สำหรับกลยุทธ์การเติบโตเชิงรุก PRTR เตรียมปิดดีลการเข้าซื้อกิจการในปีนี้ เพื่อขยายพอร์ตธุรกิจ Outsource ได้แก่ บริษัทให้บริการพนักงานขับรถและแม่บ้าน ซึ่งปีที่ผ่านมามีรายได้ราว 150 ล้านบาท และเติบโตต่อเนื่องปีละ 20% มีพนักงานในพอร์ตกว่า 600 คน ปัจจุบัน การเจรจาเสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าจะปิดดีลและเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป

​

อีกหนึ่งดีลคือบริษัทให้บริการรักษาความปลอดภัย ที่มีฐานลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมและองค์กรขนาดใหญ่ รายได้ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา โดยทั้งสองธุรกิจจะนำเทคโนโลยีของ PRTR เข้าไปสนับสนุนการบริหารจัดการ และยกระดับอัตรากำไร

​“เรายังคงเห็นความต้องการแรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรคมนาคม ไอที และความงาม ซึ่งช่วยผลักดันจำนวนพนักงาน Outsource ของ PRTR ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 19,027 ราย และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 21,500 รายภายในสิ้นปีนี้ ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ ยังตั้งเป้าธุรกิจบริการสรรหาพนักงาน (Recruitment) รวม 2,650 ตำแหน่ง จากจำนวน 568 ตำแหน่งในไตรมาสแรก นอกจากนี้เรายังมุ่งเน้นในการนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการบริหาร ทั้งนี้ PRTR ยังคงมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยมีเงินสดในมือกว่า 586 ล้านบาท และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) เพียง 0.4 เท่า ซึ่งสามารถรองรับการขยายธุรกิจทั้งในรูปแบบ Organic และ Inorganic Growth ได้อย่างมั่นคง ” นางสาว ริศรา กล่าว

​สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 PRTR มีรายได้รวม 1,885.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 55 ล้านบาท และยังคงสามารถรักษาระดับกำไรไว้ได้อย่างมั่นคง