GPSC เร่งพัฒนาพลังงานสีเขียว ตามโรดแมป Decarbonization พร้อมศึกษานวัตกรรมพลังงาน รับเกณฑ์การค้าโลกเปลี่ยน

GPSC เร่งพัฒนาพลังงานสีเขียว ตามโรดแมป Decarbonization พร้อมศึกษานวัตกรรมพลังงาน รับเกณฑ์การค้าโลกเปลี่ยน

   เมื่อ : 4 มิ.ย. 2568

GPSC รุกแผนเพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าทุกมิติ ภายใต้แนวคิด Decarbonization for Sustainable Future กำหนดแนวทางเพิ่มเสถียรภาพการป้อนไฟฟ้า ลดการปล่อยคาร์บอนฯตอบโจทย์ความต้องการใช้พลังงานสะอาด เพิ่มขีดความสามารถภาคการผลิต ลดอุปสรรคของภาคการส่งออกภายใต้เกณฑ์ใหม่โลก พร้อมเดินหน้าสู่ Net Zero ในปี 2603

นายศิริเมธ ลี้ภากรณ์ ผู้จัดการใหญ่ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท.ได้มีการจัดทำยุทธศาสตร์การลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยมอบหมายภารกิจ Decarbonization Power ของกลุ่ม ปตท. ให้กับ GPSC บริษัทฯ จึงกำหนดเป้าหมายในการขับเคลื่อนธุรกิจให้สอดรับกับกระแสการเปลี่ยนผ่านพลังงาน รวมถึงความต้องการของตลาดด้านพลังงานแห่งอนาคตที่มุ่งสู่พลังงานสีเขียวที่ทุกอุตสาหกรรมต้องพัฒนาธุรกิจเพื่อรักษาขีดความสามารถการแข่งขันด้านการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดย GPSC จะมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ ด้วยนวัตกรรมพลังงานสะอาด ตามโรดแมป Decarbonization Power  ที่จะดำเนินการลดคาร์บอนฯ เพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟ้า ควบคู่ไปกับการแสวงหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงาน สู่เป้าหมายการลดคาร์บอนฯ ต่อหน่วยการผลิตไฟฟ้า (Carbon intensity) ให้ได้ 10% ในปี 2568 และ 35% ในปี 2573 กระทั่งนำไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนฯ ในปี 2593และมุ่งสู่ Net Zero ในปี 2603

ทั้งนี้ การลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิของ GPSC กำหนดแผนงานไว้ 4 แนวทาง ได้แก่ แนวทางที่ 1 ลดการใช้เชื่อเพลิงฟอสซิล (Reduce Fossil Fuel Usage) โดยกำหนดแผนปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงหลัก เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนฯ บริษัทฯ จะใช้แนวทางการบริหารจัดการเลือกการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคโนโลยี AI เพื่อวางแผนการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเน้นความสำคัญของหน่วยผลิตที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด ซึ่งจะเลือกการเดินเครื่องโรงไฟฟ้านั้นอย่างเต็มกำลังการผลิต เพื่อให้เกิดการใช้เชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพ แนวทางที่ 2 เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน (Grow Renewables) GPSC มีแผนการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง GPSC ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอินเดียผ่านการลงทุนในบริษัท Avaada Energy Private Limited หรือ AEPL ผ่านสัดส่วนการถือหุ้นที่ร้อยละ 42.93 ที่มีกำลังการผลิตเติบโตจาก 3.7 กิกะวัตต์ สู่ 20.6 กิกะวัตต์ เพิ่มขึ้น 5.5 เท่าในระยะเวลาเพียง 3.8 ปีนับจากเริ่มลงทุน โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วกว่า 5.1 กิกะวัตต์ ส่งผลให้บริษัทฯ มีพอร์ตการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเกินกว่า 50% เร็วกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ในปี 2573 และยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับแนวทางที่ 3 เสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Enhance Infrastructure) GPSC ได้ร่วมมือกับ Doosan Enerbility Co, Ltd. ผู้เชี่ยวชาญในงานวิศวกรรมก่อสร้างโรงไฟฟ้าและผลิตอุปกรณ์กระบวนการผลิต จากสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ศึกษาการนำกรีนแอมโมเนียมาใช้ร่วมกับเชื้อเพลิงหลัก (Fuel Shifts & Hybridization) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง และการดักจับและกักเก็บคาร์บอนฯ (Carbon Capture and Storage) หรือ CCS  นอกจากนี้ ยังศึกษาการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำจากโรงไฟฟ้าชีวมวล (Biomass) ด้วยการจัดหาวัตถุดิบทางการเกษตร หรือวัสดุเหลือใช้ให้เพียงพอในการป้อนเป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้า ทั้งในประเทศและการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งการนำโซลูชั่นพลังงานปลอดคาร์บอนฯ (Carbon Free Energy Solutions) อื่นๆ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนฯ ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำในโรงไฟฟ้าประเภทต่างๆ พร้อมกันนี้ ยังได้ร่วมมือกับบริษัท Saltfoss(เดิมชื่อ Seaborg Technologies) ประเทศเดนมาร์ค ในการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาเทคโนโลยีโมดูล่าร์ขนาดเล็ก (Small Modular Reactor) หรือ SMR เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็น GEN ที่ 4 เป็นพลังงานสะอาดที่มีความปลอดภัยสูง ในกรณีที่เกิดภาวะฉุกเฉิน สามารถใช้หลักธรรมชาติลดความร้อนจากแท่งเชื้อเพลิงได้ดี เพื่อนำมาทดแทนโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงหลักตอบสนองภาคการผลิตที่ต้องการไฟฟ้าและไอน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง GPSC พร้อมศึกษารายละเอียดและรอความชัดเจนจากนโยบายภาครัฐในการเดินหน้าพัฒนาโครงการ SMR ที่จะพิจารณาอยู่ในแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ของประเทศ


นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการลดคาร์บอนฯ ในพื้นที่มาบตาพุด ร่วมกับ ปตท. เพื่อศึกษาการใช้ไฟฟ้าพลังงานสะอาดในพื้นที่มาบตาพุดทั้งหมด เนื่องจากผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีเป้าหมายในการลดการปล่อยคาร์บอนฯเพื่อเตรียมพร้อมกับกฎเกณฑ์การเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ให้กระทบกับภาคส่งออก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างหาแนวทางผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เพื่อสนับสนุนพลังงานสีเขียวในแผนการส่งเสริมการลงทุน Data Center ในไทย ทั้งนี้ GPSC ยังได้ศึกษาการกักเก็บพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบความร้อนด้วยMolten Salt Heat Storage เพื่อผลิตพลังงานความร้อนป้อนโรงงานอุตสาหกรรม สนับสนุนให้ลูกค้าอุตสาหกรรมเข้าถึงพลังงานความร้อนสีเขียว นับเป็นส่วนหนึ่งในแนวทาง MaptaphutDecarbonization Power ทั้งนี้ ในส่วนแผนการลงทุนด้านนวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคต ได้ร่วมมือกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยี CCUS (Carbon, Capture, Utilization & Storage) หรือการดักจับคาร์บอนฯ มาใช้ประโยชน์ในระยะยาว

ท้ายสุด แนวทางที่ 4 กิจกรรมซื้อขาย ชดเชยคาร์บอนฯ (Trading/Offsets) ได้แก่ การรับซื้อคาร์บอนฯ การออกใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate หรือ REC) เพื่อตอบสนองความต้องการคาร์บอนฯ และจัดหาให้กับลูกค้า รวมถึงโครงการปลูกป่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ 10,000 ไร่ เป็นต้น

 

ข้อมูลเกี่ยวกับ GPSC

GPSC ถือหุ้นโดย บมจ.ปตท. (PTT) ในสัดส่วน 47.27% บจ. สยาม แมนเนจเม้นท์ โฮลดิ้ง (SMH: บริษัทย่อยที่ PTT ถือหุ้นทั้งหมด) 7.96% บมจ.ไทยออยล์ (TOP) 10.00%  บมจ.พีทีที โกลบอลเคมิคอล (GC) 10.00% และนักลงทุนทั่วไป 24.77%  

GPSC แกนนำในการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและสาธารณูปโภคของกลุ่ม ปตท. ดำเนินธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และสาธารณูปโภคต่าง ๆ เพื่อจำหน่ายแก่ลูกค้าอุตสาหกรรม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และอื่นๆ โดยปัจจุบัน มีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ได้รับอนุมัติแล้วตามสัดส่วนการถือหุ้น (Equity MW) รวมประมาณ 14,144 เมกะวัตต์ ไอน้ำรวมประมาณ 3,294 ตันต่อชั่วโมง น้ำเย็นรวมประมาณ 12,400 ตันความเย็น และน้ำเพื่อการอุตสาหกรรมรวมประมาณ 7,472 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ