คนตัวเล็กรวมพลังพลิกวิกฤตขยะ สร้าง “ธุรกิจชุมชน” ศูนย์ MRF บ้านฉาง เพิ่มรายได้บนเส้นทางความยั่งยืน
คนตัวเล็กรวมพลังพลิกวิกฤตขยะ สร้าง “ธุรกิจชุมชน” ศูนย์ MRF บ้านฉาง เพิ่มรายได้บนเส้นทางความยั่งยืน
ระยอง – 26 กันยายน 2568 – ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2566 ที่ระยอง มีพิธีเปิดศูนย์นวัตกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อจัดการและแปรรูปวัสดุรีไซเคิลครบวงจร หรือ MRF อย่างเป็นทางการ โดยเป็นแห่งแรกของไทยที่ดำเนินการในรูปแบบ Community Enterprise หรือ “ธุรกิจชุมชน” งานนี้มีบุคคลสำคัญระดับจังหวัดมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดระยองมาเป็นประธานในพิธีเปิด
เพราะเป็นกิจกรรมเพื่อชุมชน ดังนั้นคนที่จะเข้ามาทำงานที่ศูนย์นี้จึงเป็นคนในชุมชนด้วยเช่นกัน ปุ๊- นันท์นภัส โคตรวิชา หนิง - บุณณดา ดิษยาลภัสและ ติ๊ก - ดวงพร บุญค้ำ สามแม่บ้านในชุมชนประชุมมิตร จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
“ตอนแรก ผอ.กองสาธารณสุข มาชวนพวกเราทำเรื่องคัดแยกขยะ แล้วส่งไปอบรมเรื่องการจัดการและการคัดแยกขยะ ที่ศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีจัดการขยะชุมชนตาลเดี่ยว จังหวัดสระบุรี ทีแรกพวกเราก็มองไม่ออกว่าคืองานอะไร แต่ก็ไปเพราะคิดว่าดูงานก็เหมือนไปเที่ยว” 3 สาวเริ่มบทสนทนา
แต่เวทีนี้ยังมี ”พี่เลี้ยง” ซึ่งมีหลายหน่วยงานที่คอยซัพพอร์ตให้ภารกิจสำคัญนี้สามารถเดินไปถึงฝั่งให้ได้ โดย วว. มีหน้าที่มาช่วยวางระบบในการคัดแยกขยะ รวมถึงให้คำปรึกษาทุกปัญหา และยังมีทีมงานจากกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow)คอยสนับสนุนการบริหารงานและการประชาสัมพันธ์
แต่เดิมคนในชุมชนไม่รู้จักเรื่องการแยกขยะรีไซเคิลมาก่อน ซึ่งปกติจะมี “ซาเล้ง” เข้ามารับซื้อขยะรีไซเคิลตามบ้านโดยให้ราคาไม่สูง แต่ชาวบ้านก็พอใจเพราะไม่อยากเก็บให้รกบ้าน “ชาวบ้านบางคนบอกว่าเก็บกองท่วมบ้านขายให้ซาเล้งได้เงินแค่ 20 บาท พอได้เงินน้อยพวกเขาเลยไม่สนใจ”
พวกเธอคอยสอนให้ชาวบ้านรู้จักแยกขยะตามประเภท โดยใช้ราคาเป็นสิ่งจูงใจ “จากเดิมชาวบ้านเอาขยะรวม ๆ กันมาให้เราเหมือนตอนขายให้ซาเล้ง แต่เราจะให้ความรู้ชาวบ้านว่าเรารับซื้ออะไรบ้าง ให้ราคาเท่าไหร่แล้วเอาไปทำอะไร คือเราสอนชาวบ้านว่าถ้าแยกประเภทมา อันนี้จาก 2 บาท จะได้เป็น 4 บาท อันนี้ได้ 7 บาท ชาวบ้านก็รีบกลับบ้านไปตั้งใจแยกขยะกันใหญ่เลย”
หลังจากที่ตระเวนให้ความรู้เรื่องการแยกขยะรีไซเคิลมาได้ระยะหนึ่งก็ได้รับความสนใจจากชุมชนอย่างมาก ถึงขนาดบางคนนำสมุดปากกามาจดวิธีการแยกขยะรีไซเคิลที่ถูกต้องกันเลย ทุกวันนี้ชุมชนหลาย ๆ แห่งสามารถแยกขยะตามประเภทได้ถูกต้องตั้งแต่ต้นทางก่อนนำมาขายที่ศูนย์ MRF
นอกจากนี้ศูนย์ MRF ยังได้จับมือกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) เข้าไปตั้งจุดรับซื้อขยะรีไซเคิลผ่านกิจกรรมที่ตลาดบ้านฉัน@อำเภอบ้านฉาง เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ชักชวนให้คนที่มาเดินซื้อของในตลาดนำขยะรีไซเคิลมาขาย มีโปรโมชั่น มีระบบจัดการสมาชิกพร้อมสะสมแต้มจากยอดขายและแลกเป็นของใช้ได้อีกด้วย
“เรามีจัดโปรโมชั่นด้วยการแถมไข่ไก่ให้กับสมาชิก ทุก 50 บาทที่ขายขยะรีไซเคิลได้ รับไข่ไก่ไป 1 ฟอง โปรนี้ทุกคนชอบมาก นอกจากนี้ก็มีของใช้และของกินให้แลก เช่น มาม่า ปลากระป๋อง น้ำมันพืช”
หลังจากผ่านไปสักระยะหนึ่งทุกคนที่มาช้อปปิ้งที่ตลาดแห่งนี้จะนำขยะที่แยกแล้วติดมาด้วยเพื่อนำมาขาย ซึ่งเป็นผลดีที่ทำพวกเธอเลยไม่ต้องตระเวนไปรับซื้อตามบ้านอีกแล้ว เพราะมีการพูดปากต่อปากจึงขยายผลออกไปอย่างรวดเร็ว
“ครั้งแรกที่พอรู้ว่าเราต้องทำอาชีพรับซื้อขยะก็รู้สึกอายมาก แต่ทุกวันนี้เราไม่เรียกว่าขยะแล้ว เราเรียกมันว่าวัสดุรีไซเคิล เวลาเราออกไปรับซื้อก็จะมีคนทักทายต้อนรับเรา ชวนกินข้าว ปฏิบัติกับเราเหมือนญาติ ได้มิตรภาพใหม่ ๆ”เมื่อกิจกรรมนี้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนอย่างแท้จริงจึงมีการพูดปากต่อปาก แต่ภารกิจยังไม่หมดตราบใดที่ขยะยังเก็บไม่หมด แผนขั้นต่อไปจึงขยายจากบ้านไปสู่ โรงเรียน วัด และออกไปสู่ชุนชนใกล้เคียง
“กลยุทธ์ที่ใช้ก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เพื่อจูงใจให้เขาเอาขยะรีไซเคิลมาให้เรา จากเดิมที่รับขยะตามชุมชนใกล้ ๆ ศูนย์ ตอนนี้ขยายพื้นที่ออกไปไกลขึ้น จากเขตตำบลบ้านฉางของเรา ตอนนี้เราเริ่มข้ามเขตไปเทศบาลนครมาบตาพุดแล้ว อีกกลยุทธ์คือเปิดเฟซบุ๊กชื่อ “ศูนย์ต้นแบบคัดแยกและแปรรูปวัสดุรีไซเคิลบ้านฉาง MRF” และ LINE ชื่อ“MRF บ้านฉาง ระยอง” ทำให้ได้สมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นมาก”
หลังการรณรงค์ของศูนย์ MRF ไปได้สักระยะหนึ่งผลที่เห็นได้ชัดคือ “ชาวบ้านตั้งใจนำวัสดุรีไซเคิลมาขายให้ศูนย์มากขึ้น เพราะเขาคิดว่าศูนย์นี้มีบริษัท Dow ให้การสนับสนุน จึงเชื่อมั่นว่าขยะรีไซเคิลที่ขายให้กับเราจะได้รับการนำไปรีไซเคิลที่ถูกต้อง ทำให้ทุกคนเริ่มตื่นรู้ในเรื่องสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น เป็นความภาคภูมิใจของเขาด้วย”
ปัจจุบันศูนย์ MRF ดำเนินการก้าวสู่ปีที่ 3 เพื่อเดินหน้าสู่ภารกิจใหม่ “ตอนนี้เราไม่ได้ทำแค่ซื้อมาขายไปแล้ว แต่เรากำลังทำเรื่อง upcycling เพื่อเพิ่มมูลค่าขยะ นอกจากนี้ยังต้องทำหน้าที่เป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับหน่วยงานและชุมชนอื่น ๆ และสุดท้ายศูนย์นี้จะต้องก้าวสู่ Community Enterprise(วิสาหกิจชุมชน) ซึ่งเป็นงานยากขึ้น เพราะเราต้องบริหารจัดการในเชิงธุรกิจเพื่อให้สามารถเลี้ยงตัวเองให้อยู่รอดและยั่งยืน”
งานจากนี้ไปคงยากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะใคร ๆ ก็ตั้งความหวังกับศูนย์ MRF ที่จะมาเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการขยะรีไซเคิลในชุมชน เมื่อถามพวกเธอว่าจะสู้ต่อหรือพอแค่นี้
“เมื่อก่อนพวกเราเป็นแม่บ้าน แต่ตอนนี้เราเดินไปที่ไหนก็มีคนรู้จักทักทายเรา มีลูกค้าหลายคนบอกกับเราว่าอย่าเพิ่งหยุดนะ ต้องไปต่อนะ เพราะเขาเห็นว่าศูนย์ฯ เราทำเพื่อสิ่งแวดล้อมจริง ๆ ดูสิว่าคนเหล่านี้ยังอยากให้เราทำอยู่เลย เกิดเป็นพลังบวกให้กับเราสามคนในการสร้างทุก ๆ วันที่ดียิ่งขึ้นต่อไป” นันท์นภัส กล่าวทิ้งท้าย
เรื่องราวของศูนย์ MRF บ้านฉาง จึงไม่ใช่เพียงโมเดลจัดการขยะรีไซเคิล แต่คือพลังของคนเล็ก ๆ ที่ลุกขึ้นสู้กับกองขยะมหาศาล จนสามารถเปลี่ยนสิ่งไร้ค่าให้กลายเป็นโอกาส สร้างทั้งรายได้ ความภาคภูมิใจ และอนาคตที่ยั่งยืนให้กับชุมชนและโลกใบนี้
เกี่ยวกับ ‘ดาว’
Dow (NYSE: DOW) เป็นหนึ่งในบริษัทวัสดุศาสตร์ชั้นนำของโลกที่ให้บริการลูกค้าในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง อาทิ บรรจุภัณฑ์ โครงสร้างพื้นฐาน ยานยนต์ และสินค้าอุปโภคบริโภค ความเป็นบริษัทระดับโลกที่มีโรงงานขนาดใหญ่และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ พร้อมด้วยความเป็นผู้นำทางธุกิจและความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืน ช่วยให้เราบรรลุการเติบโตอย่างมีผลกำไรและสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืน ปัจจุบัน Dow มีฐานการผลิตใน 31ประเทศและมีพนักงานประมาณ 35,900 คน โดยมียอดขายประมาณ 45,000 ล้านดอลลาห์สหรัฐในปี 2566
ทั้งนี้ การอ้างอิงถึง Dow หรือบริษัทฯ นั้นจะหมายความถึง Dow Inc. และบริษัทในเครือ โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเราและความมุ่งมั่นในการเป็นบริษัทวัสดุศาสตร์ชั้นนำของโลกในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน ด้วยการทำงานที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และให้การยอมรับบุคคลากรที่มีความหลากหลายได้ที่ www.dow.com
เกี่ยวกับ ‘กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย’
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow Thailand Group) เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 และได้ร่วมกับบริษัท เอสซีจี ก่อตั้งกลุ่มบริษัทร่วมทุนเอสซีจี-ดาว ในปี พ.ศ. 2530 (ในปี 2565 เอสซีจี เคมิคอลส์ ได้รีแบรนด์เป็น เอสซีจีซี) โดยในปัจจุบัน กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ประกอบด้วยบริษัทซึ่ง Dow เป็นเจ้าของเพียงผู้เดียว และกลุ่มบริษัทร่วมทุนเอสซีจีซี-ดาว นอกจากนี้ ยังมีบริษัทร่วมทุนระหว่าง Dow และ โซลเวย์ ปัจจุบันประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของ ดาว ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยมีโรงงานหลายแห่งตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง ตลาดหลักของกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทยได้แก่ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ การก่อสร้าง และยานยนต์ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้ที่ https://www.dowfamilythailand.com/th/about_us.phpหรือติดตามเฟซบุ๊ก www.facebook.com/DowThailandGroup/