วช. หนุนนำวิจัยประวัติศาสตร์อัตลักษณ์ท้องถิ่นร่วมนำเสนอผ่านดนตรีไทยและดนตรีสากล ในวัฒนธรรมภูมิภาค “เพลงล้านช้าง ลาว เขมร และผู้ไท” ณ ลานพญาศรีสัตตนาคราช จ.นครพนม
วช. หนุนนำวิจัยประวัติศาสตร์อัตลักษณ์ท้องถิ่นร่วมนำเสนอผ่านดนตรีไทยและดนตรีสากล ในวัฒนธรรมภูมิภาค “เพลงล้านช้าง ลาว เขมร และผู้ไท” ณ ลานพญาศรีสัตตนาคราช จ.นครพนม
วันที่ 11 ตุลาคม 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สนับสนุน มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข จัดแสดงดนตรี “วัฒนธรรมเพลงล้านช้าง ลาว เขมร และผู้ไท” ภายใต้โครงการ “ดนตรีประจำชาติบนความแตกต่าง ความหลากหลาย และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข” โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี พร้อมนี้ นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม กล่าวต้อนรับ ณ ลานพญาศรีสัตตนาคราช จังหวัดนครพนม
นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม กล่าวว่า จังหวัดนครพนมเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ในหลากหลายมิติ ทั้งชาติพันธุ์ วิถีชีวิต และวัฒนธรรมท้องถิ่น การจัดแสดงดนตรีโดยวงไทยซิมโฟนีออร์เคสตร้าในครั้งนี้ เปิดโอกาสให้ชาวนครพนมได้ซึมซับความงดงามของวัฒนธรรมบ้านเกิด เป็นเวทีให้ประชาชนทั่วไปได้เรียนรู้และสัมผัสวัฒนธรรมพื้นถิ่นผ่านบทเพลงและเสียงดนตรี ซึ่งจะเป็นต้นแบบที่ดีในการส่งเสริมให้พื้นที่อื่น ๆ รวมถึงเยาวชนรุ่นใหม่ ได้เห็นคุณค่าและร่วมกันเผยแพร่ต่อไป
การแสดงในครั้งนี้ เป็นการผสมผสานศิลปวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายเผ่าพันธุ์ในพื้นที่จังหวัดนครพนม ชาวผู้ไทชาวไทดำ ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะด้านสำเนียงดนตรีและบทเพลงพื้นถิ่น ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติ วิถีชีวิต ความเชื่อ อาชีพ และศิลปวัฒนธรรม โดยประกอบด้วยการแสดงดนตรีจากวงไทยซิมโฟนีออร์เคสตร้า (Thai Symphony Orchestra) ควบคุมวง โดย พันเอกพิเศษ ดร.ประทีป สุพรรณโรจน์ การแสดงดนตรีจากวงทาลึง และการแสดงจากวงปล่อยแก่ จ.อุดรธานี พร้อมด้วยการสร้างสรรค์ภาพจิตรกรรมประกอบบทเพลง โดย ดร.สุชาติ วงษ์ทอง โดยมีการมอบผลงานนี้ให้แก่นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม
ทั้งนี้ การจัดแสดงดนตรีภายใต้โครงการวิจัยดนตรีประจำชาติในครั้งนี้ ได้ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสในการบันทึกเทปการแสดง ซึ่งมีกำหนดออกอากาศในวันที่ 5 ธันวาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วประเทศได้ร่วมรับชมและเข้าถึงคุณค่าทางวัฒนธรรมของจังหวัดนครพนมอย่างแพร่หลาย