เดือนแห่งการรณรงค์ตระหนักรู้มะเร็งเต้านม: คำแนะนำจากมหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จเพื่อส่งเสริมสุขภาพเต้านมในคนไทย

เดือนแห่งการรณรงค์ตระหนักรู้มะเร็งเต้านม: คำแนะนำจากมหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จเพื่อส่งเสริมสุขภาพเต้านมในคนไทย

   เมื่อ : 22 ต.ค. 2568

กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 22 ตุลาคม 2568: ในเดือนตุลาคมของทุกปี เป็น เดือนแห่งการรณรงค์ตระหนักรู้ มะเร็งเต้านม (Breast Cancer Awareness Month) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า ”Pink Month” จะมีการรณรงค์ ให้ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม โรคร้ายที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้หญิงหลายพันคนในประเทศไทย ในปีนี้ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ (St. George’s University – SGU) ประเทศเกรนาดา หมู่เกาะเวสต์อินดิส เน้นย้ำถึงความสำคัญของความรู้เกี่ยวกับการตรวจมะเร็งเต้านมตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และการป้องกันโรคในอนาคต

อ้างอิงจากข้อมูลของ กรมการแพทย์ มะเร็งเต้านมยังคงเป็นโรคมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิงไทย โดยมีผู้ป่วยรายใหม่มากถึง 20,000 รายต่อปี ท่ามกลางความท้าทายนี้ Erika King บัณฑิต SGU ปี 2562 ได้เสนอ 5 เคล็ดลับดูแลสุขภาพเต้านมที่ผู้หญิงไทยควรรู้ เพื่อเป็นการตรวจวินิจฉัยเชิงรุกและวางแผน การดูแลสุขภาพในระยะยาว

เข้าใจใน ”ความปกติ” ของร่างกายตนเอง

การเข้าใจสภาวะปกติของร่างกาย ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการตรวจพบมะเร็งในระยะเริ่มต้น ผู้หญิงทุกคนควร ตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำทุกเดือน และใส่ใจกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ก้อนแข็ง อาการบวม ผิวไม่สม่ำเสมอ หรือมีของเหลวไหลออกมา การสังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยอาจ เป็นตัวแปรสำคัญในการตรวจพบความผิดปกติแต่เนิ่นๆ

ให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ

การตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) และตรวจร่างกายโดยแพทย์อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ยังคงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการตรวจพบมะเร็งเต้านมก่อนแสดงอาการ

การตรวจพบในระยะเริ่มต้นจะเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาด และช่วยรักษาคุณภาพชีวิตในระยะยาว

นอกจากนี้ การตรวจคัดกรองยังช่วยให้รู้สึกอุ่นใจ เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย และส่งเสริมความมั่นใจในการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีต่อไปได้

รู้ถึงประวัติสุขภาพของครอบครัว

หากมีสมาชิกในครอบครัวหรือญาติใกล้ชิดเคยเป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งรังไข่มาก่อน อาจเพิ่มความเสี่ยง ในการเกิดโรคนี้ได้ ในกรณีนี้ การตรวจพันธุกรรมและการตรวจสุขภาพอย่างละเอียดจะช่วยให้สามารถ วางแผนการดูแลสุขภาพได้ดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการให้คำปรึกษา ด้านพันธุกรรมในปัจจุบัน ผู้หญิงสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและแม่นยำมากขึ้น ด้วยข้อมูลที่ รอบด้านและครบถ้วน

ใช้ชีวิตแบบใส่ใจสุขภาพ

พฤติกรรมการใช้ชีวิตมีผลต่อสุขภาพเต้านมอย่างมาก การรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ออกกำลังกายเป็นประจำ และลดการดื่มแอลกอฮอล์ ล้วนเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงได้ พฤติกรรมเล็กๆ เช่น การเพิ่มผักผลไม้ในแต่ละมื้ออาหาร ลดอาหารแปรรูป และออกกำลังกายเป็นประจำ เมื่อทำอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลดีในระยะยาว เพราะการป้องกันไม่ใช่เรื่องของความสมบูรณ์แบบ แต่เป็นเรื่องของความสม่ำเสมอ

ให้ความสำคัญกับสัญญาณจากร่างกาย

มะเร็งเต้านมไม่ได้แสดงอาการให้เห็นเด่นชัดเสมอไป บางครั้งอาจแสดงผ่านอาการเจ็บเต้านมเรื้อรัง อาการบวม หรือขนาดเต้านมและผิวหนังที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญ การสังเกต ร่างกายของตนเอง และไปพบแพทย์เมื่อเกิดความผิดปกติ จึงถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการดูแล และปกป้องตัวเอง

การดูแลสุขภาพเต้านมอย่างต่อเนื่อง คือ การให้ความสำคัญกับการเข้าใจ การป้องกัน และการดูแลตนเองอย่างแท้จริง ในช่วงเดือนแห่งการรณรงค์ตระหนักรู้มะเร็งเต้านมนี้ มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ (SGU) ส่งเสริมให้ผู้หญิงไทยทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของมะเร็งเต้านม และลุกขึ้นมาดูแลเสริมสร้างสุขภาพเต้านมของตนเอง ผ่านการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ดีต่อสุขภาพ หรือแม้แต่การใส่ใจต่อสัญญาณเตือนเล็กๆ จากร่างกายต่อไป

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรและเส้นทางการศึกษาของ SGU

สามารถดูรายละเอียดได้ที่: https://www.sgu.edu/international-students/?utm_source=press_release&utm_medium=referral&utm_campaign=east_asia

 เกี่ยวกับ มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ

มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ (SGU) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2519 เป็นศูนย์กลางของความเป็นเลิศทางวิชาการในระดับโลก ด้วยนักศึกษา และคณาจารย์จากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก SGU เป็นสถาบันระดับนานาชาติอย่างแท้จริงที่มีมุมมองระดับโลกอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คณะแพทยศาสตร์ SGU ได้รับการรับรองด้านการแพทย์จาก Grenada Medical and Dental Council (GMDC) เป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจาก World Federation for Medical Education (WFME) ซึ่งเป็นองค์กรสากลที่รับรองมาตรฐานหลักสูตรแพทย์ทั่วโลก มหาวิทยาลัยเปิดหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต (พ.บ.) 4 ปี และเปิดหลักสูตรขั้นสูง 5, 6 และ 7 ปี โดยสามารถรับนักศึกษาจากระบบการศึกษาทั่วโลก SGU มีเครือข่ายโรงพยาบาลและศูนย์สุขภาพขนาดใหญ่ในเครือมากกว่า 75 แห่งในสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร พร้อมเปิดโอกาสพิเศษสำหรับนักศึกษาในการเริ่มต้นอาชีพแพทย์ในเกรเนดา หรือสหราชอาณาจักร

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ