”อัครา” ชู MOU 4 กระทรวง 3 สมาคม อปท. พัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัย เริ่มต้นจากครอบครัว พร้อมหนุน ”พม.ใกล้คุณ” เข้าถึงสิทธิสวัสดิการทั่วไทย
”อัครา” ชู MOU 4 กระทรวง 3 สมาคม อปท. พัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัย เริ่มต้นจากครอบครัว พร้อมหนุน ”พม.ใกล้คุณ” เข้าถึงสิทธิสวัสดิการทั่วไทย
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวปาฐกถา ”การยกระดับและการพัฒนาคนใกล้คุณ : Family First & Care Economy” , ทิศทางงานด้านการพัฒนาสังคม และสวัสดิการ แบบ Family First , โอกาส และความท้าทายของเศรษฐกิจใส่ใจ (Care Economy) และบทบาทหน่วยงานส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นใกล้คุณ ในงาน ”การบูรณาการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัย” จัดโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยมี นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) กล่าวต้อนรับ ซึ่งมี คณะผู้บริหารกระทรวง พม. พร้อมหัวหน้าหน่วยงานทั้งส่วนกลางและภูมิภาค และเจ้าหน้าที่ ทีม พม.ใกล้คุณ ทั่วประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ผู้บริหารและผู้แทนหน่วยงานภาคีเครือข่าย และสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี และผ่านการถ่ายทอดสด (LIVE) ทางเพจ FACEBOOK : กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นายอัครา กล่าวว่า ตนขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงเป็นแบบอย่างแห่งความรัก ความเพียร และการไม่ทอดทิ้งกัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตสตรี เด็กและเยาวชน เสริมพลังครอบครัว และโอบอุ้มผู้สูงอายุ คนพิการ และกลุ่มเปราะบาง ซึ่งแนวพระราชดำริของพระองค์ คือ แรงบันดาลใจในการทำงานที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และเชื่อมโยงกับการคุ้มครองทางสังคมในการสร้างโอกาสทางอาชีพที่วัดผลได้จริง ซึ่งวันนี้เราเป็นตัวแทนจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) , กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) , กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) , กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) , สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย , สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ขอร่วมสืบสานพระราชปณิธาน ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เริ่มจากครอบครัวสู่ชุมชน และงอกงามเป็นความมั่นคงของชาติต่อไป
นายอัครา กล่าวว่า วันนี้ ทั้ง 3 สมาคม อปท. จะเป็นเจ้าภาพ โดยยึดพื้นที่ (Area Base) เป็นสำคัญ เนื่องจากทั้ง 3 สมาคม อปท. ทำงานใกล้ชิดกับครอบครัวในพื้นที่ และทำงานแบบมุ่งเป้า เพื่อให้เกิดการพัฒนาแผนงาน โครงการ หรือมาตรการที่เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ภายหลังจากการลงนาม MOU ในช่วงบ่ายของวันนี้ เราจะมีการจัดตั้งคณะทำงาน เพื่อร่วมกันดำเนินการขับเคลื่อนงานเพื่อให้เกิดการทำงานแบบบูรณาการ โดยการกำหนดพื้นที่ (Area Base) ของครอบครัว แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรก กลุ่มครอบครัวในพื้นที่ท้องถิ่นทั่วประเทศ ซึ่งเป็นภารกิจที่ขับเคลื่อนโดยทุก ๆ หน่วยงาน และกลุ่มที่ 2 กลุ่มครอบครัวในศูนย์ สถาน บ้าน นิคม รวม 515 แห่งของกระทรวง.พม.
นายอัครา กล่าวว่า การลงนาม MOU ในวันนี้ ยังเป็นโอกาสในการเริ่มต้นการพัฒนาคนในสังคมที่ใส่ใจจากหน่วยเล็กๆ จากครอบครัวสู่ชุมชน หมู่บ้านสู่ตำบล อำเภอสู่จังหวัด เพื่อเป็นพื้นฐานในการพัฒนาคนของชาติแบบบูรณาการร่วมกันทั้ง 7 หน่วยงาน โดยขอนำเสนอแนวทางการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่สอดคล้องกับบริบทแต่ละพื้นที่ อาทิ กลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์ พี่น้องบนพื้นที่สูง และคนชายขอบภาคเหนือ ซึ่งบริโภคไข่ไก่ในราคาที่สูง เพราะต้องซื้อไข่มาจากที่อื่น และต้องบวกราคาในการขนส่ง เป็นปัญหาเล็ก ๆ ที่เรามองข้าม จึงเป็นที่มาของแนวคิด ”ไข่ใกล้คุณ” คือ การส่งเสริมการเลี้ยงไก่ไข่ในชุมชน โดยกระทรวง กษ. จะเข้ามาสนับสนุนองค์ความรู้ ปัจจัยการผลิต มาตรฐานการบริหารจัดการด้านปศุสัตว์ทั้งระบบ และกระทรวง ศธ. จะเข้ามาส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในวัยเรียนเข้าถึงโปรตีนจากไขไก่ที่เลี้ยงเองในครัวเรือน รวมถึงการรวมกลุ่มที่โรงเรียน ภายใต้โครงการไข่เพื่อน้อง ในขณะที่ กระทรวง กก. จะเข้ามาส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนที่มีกิจกรรมให้เด็กและเยาวชนมีส่วนร่วม อาทิ มีการอุดหนุนการซื้อไข่ไก่ในโครงการไข่เพื่อน้อง โดย 3 สมาคม อปม. นอกจากเข้ามาร่วมกันชี้เป้าพื้นที่แล้ว ยังเป็นหน่วยงานสำคัญในการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ร่วมกับกระทรวง พม. ในการเชื่อมโยงกับหน่วยงานของพื้นที่กับหน่วยงานผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ในการดูแลกลุ่มเปราะบางให้มีอาชีพใกล้บ้านได้จริง
นอกจากนี้ จะมีการขับเคลื่อนโครงการศูนย์ร่วมสุข โดยกระทรวง พม. ให้เป็นศูนย์กลางของจังหวัด เพื่อการพัฒนาโอกาสทางอาชีพและการมีรายได้ , โครงการพัฒนาหมู่บ้านเกษตรท่องเที่ยว และตลาดเกษตรปลอดภัย เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มคนเปราะบางทุกช่วงวัย , โครงการข้าวแกงพื้นถิ่นไทย เพื่อพัฒนาทุกชุมชนและกลุ่มคนเปราะบางให้มีสูตรอาหาร มีครัว และเชื่อมโยงกับการใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นสู่การแปรรูป ให้เกิดโอกาสในการจำหน่ายและยกระดับการสร้าง Content เป็นจุดเด่นของพื้นที่ นับเป็นการสร้างการมีส่วนร่วม ระหว่างสังคมและกลุ่มคนเปราะบางทุกช่วงวัย
นายอัครา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในฐานะคนเคยทำงานในท้องถิ่น ตนมั่นใจว่า หากเรามีกระบวนการบริหารจัดการให้ 1 ครอบครัว ได้รับสิทธิสวัสดิการสังคมตามที่บริหารจัดการให้ มีการส่งเสริมให้ทุกครอบครัวมีงาน มีอาชีพใกล้บ้าน จะเป็นการลดรอยต่อในการเข้าถึงหน่วยงาน ”ใกล้ตัว” ที่มีการแก้ปัญหาแบบบูรณาการได้ในระยะเวลาที่รวดเร็ว ซึ่งการทำงานในลักษณะนี้ พม.ใกล้คุณ สามารถทำงานใกล้กับทุกๆ หน่วยงานเพื่อพัฒนาคุณภาพครอบครัว และพัฒนาสังคมได้ ทั้งนี้ ตนขอขอบคุณทุกท่านจากใจของครอบครัว พม. และทุกครอบครัวของกลุ่มเปราะบางทั่วประเทศ โดยความร่วมมือของเราในวันนี้ จะเป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนจาก ”ความตั้งใจ” ให้เป็น ”พลังปฏิบัติ” ที่จับต้องได้ และเราจะนำพาทุกชีวิตเข้าถึงสิทธิสวัสดิการสังคมอย่างไร้รอยต่อ มีงาน มีรายได้ใกล้บ้าน เป็นการเพิ่มโอกาสอย่างเป็นธรรม เพื่อให้ความอบอุ่นเริ่มจากบ้าน แผ่สู่ชุมชน และงอกงามเป็นความมั่นคงของชาติสืบไป
#พมใกล้คุณ