ยูโอบีเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอาเซียน ประจำปี 2568 พบคนไทยมองบวกแต่ไม่ประมาทต่อเศรษฐกิจในประเทศ สุขภาพ คุณภาพชีวิต และการศึกษา คือแรงขับสำคัญของพฤติกรรมใช้จ่ายยุคใหม่

ยูโอบีเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอาเซียน ประจำปี 2568 พบคนไทยมองบวกแต่ไม่ประมาทต่อเศรษฐกิจในประเทศ สุขภาพ คุณภาพชีวิต และการศึกษา คือแรงขับสำคัญของพฤติกรรมใช้จ่ายยุคใหม่

   เมื่อ : 7 พ.ย. 2568

กรุงเทพฯ, 6 พฤศจิกายน 2568 – ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย รายงานผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอาเซียน หรือ ASEAN Consumer Sentiment Study (ACSS) ประจำปี 2568 ที่จัดทำร่วมกับบริษัท Boston Consulting Group เผยว่าผู้บริโภคไทยร้อยละ 39 มองเศรษฐกิจในอนาคตอย่างเชื่อมั่น โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากปีก่อน แต่ยังคงบริหารการเงินอย่างรอบคอบ นอกจากนี้ สุขภาพ การศึกษา และคุณภาพชีวิต เป็นหมวดรายจ่ายที่มีความสำคัญขึ้น สะท้อนการปรับวิถีชีวิตสู่ความยั่งยืนและการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น

 นายยุทธชัย เตยะราชกุล กรรมการผู้จัดการ บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวถึงผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคไทยกำลังรักษาความสมดุลระหว่างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง เขากล่าวว่า “เรากำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้จ่ายเพื่อพัฒนาตนเองและดูแลสุขภาพ สะท้อนความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในวันนี้ พร้อมกับการเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้”

นายจอห์น วากเนอร์ กรรมการผู้จัดการ และพาร์ทเนอร์ บีซีจีประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้ความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย แต่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเป็นตามคาดการณ์ คนไทยเริ่มกังวลกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคสามารถปรับตัวได้ โดยปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งไม่เพียงเปิดโอกาสให้ธุรกิจสร้างการเติบโต แต่ยังนำมาซึ่งความท้าทายใหม่ที่ผู้บริโภคและผู้กำหนดนโยบายต้องรับมือ”

คนไทยให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเพื่อการศึกษาและคุณภาพชีวิตมากขึ้น

นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายประจำวัน ผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยร้อยละ 44 รายงานว่ามีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในด้านการศึกษา สุขภาพ และคุณภาพชีวิต สะท้อนถึงความตระหนักที่เพิ่มขึ้นต่ออายุที่ยืนยาวและความเป็นอยู่ที่ดี โดยกว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่าจะเกษียณหลังอายุ 60 ปีทั้งนี้ จำนวนเงินออมที่ต้องการเพื่อการเกษียณอย่างมั่นคงแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละกลุ่ม โดยกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปมีเป้าหมายเฉลี่ยที่ 3.9 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงตั้งเป้าเฉลี่ยไว้ที่ 10.5 ล้านบาท

 

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย แนะนำให้วางแผนการเงินอย่างเป็นระบบเพื่อรักษามาตรฐานการครองชีพหลังเกษียณ ทั้งการจัดงบประมาณด้านสุขภาพเชิงป้องกัน การลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง และการทำประกันเพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด

โซเชียลมีเดียหนุนการมีส่วนร่วมมากกว่าสร้างยอดขายทันที

ผลสำรวจจาก ACSS 2568 ระบุว่า ผู้บริโภคชาวไทยร้อยละ 45 ซื้อสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้นในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา แต่ร้อยละ 47 ใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อนานขึ้น หลายคนเข้าร่วมไลฟ์สตรีมเพื่อความบันเทิง เปรียบเทียบสินค้า และชะลอการตัดสินใจซื้อ ซึ่งแม้จะทำให้การสร้างยอดขายทันทีลดลง แต่กลับช่วยเสริมสร้างการมีส่วนร่วมและการจดจำแบรนด์มากขึ้น

 

เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ธนาคารยูโอบีได้ผสานเทคโนโลยี AI มาพัฒนาฟีเจอร์ Smart Insights บนแอป UOB TMRW เพื่อช่วยติดตามรูปแบบการใช้จ่าย แจ้งเตือนค่าใช้จ่ายล่วงหน้า และแนะนำแนวทางสู่พฤติกรรมทางการเงินที่ยั่งยืน เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถรักษาสมดุลระหว่างการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง และการสร้างความมั่นคงทางการเงิน

ความมั่นใจทางการเงินเติบโตควบคู่กับพฤติกรรมการออมที่เปลี่ยนแปลงไป

ผลสำรวจพบว่า ผู้บริโภคไทยร้อยละ 87 มีความมั่นใจในการบริหารการเงินส่วนบุคคลของตนเอง และกว่า 7 ใน 10 (ร้อยละ 74) มีการออมเงินมากกว่าร้อยละ 10 ของรายได้ โดยในกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 88 ซึ่งข้อมูลจากธนาคารยูโอบี ประเทศไทย สะท้อนถึงแนวโน้มนี้เช่นกัน โดยพบว่ายอดเงินฝากของลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงเติบโตขึ้นร้อยละ 21 ขณะที่ลูกค้ากลุ่ม Gen Z มีบทบาทสำคัญในการเร่งการเติบโตของจำนวนบัญชีเงินฝากในกลุ่มลูกค้ายูโอบี ด้วยการเปิดบัญชีใหม่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 48 สะท้อนความสนใจในการออมเงินของกลุ่มคนรุ่นใหม่

 

อย่างไรก็ตาม วินัยในการออมยังคงเป็นความท้าทายสำคัญโดยร้อยละ 85 ของผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงเลือกใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในปัจจุบัน ขณะที่ร้อยละ 76 ของ Gen Y และร้อยละ 82 ของ Gen Z ระบุว่าความกดดันจากสังคมและเพื่อนเป็นอุปสรรคต่อการออมอย่างต่อเนื่อง

นายยุทธชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ‘คนรุ่นใหม่ของไทยมีความเข้าใจด้านดิจิทัลและเปิดรับการเรียนรู้เกี่ยวกับการวางแผนและบริหารการเงิน แต่หลายคนยังเผชิญกับความท้าทายเชิงโครงสร้าง เช่น มีช่องว่างด้านความรู้ทางการเงิน ทัศนคติต่อการใช้จ่าย และความไม่มั่นคงของรายได้ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการนำความรู้ไปสู่การปฏิบัติและสร้างความมั่นคงทางการเงินระยะยาว เป้าหมายของธนาคารคือการช่วยลดช่องว่างเหล่านี้ ผ่านเครื่องมือและข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยให้พวกเขามีอิสระในการใช้ชีวิตตามที่ใฝ่ฝัน โดยไม่กระทบต่อความมั่นคงทางการเงินของตนเอง’

 

อ่านรายงานฉบับเต็มของผลการศึกษาความเชื่อมั่นผู้บริโภคอาเซียน ปี 2568 ของยูโอบี ได้ที่

https://www.uobgroup.com/asean-insights/articles/acss-2025-thailand.page

เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี

ธนาคารยูโอบี เป็นธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ และมีเครือข่ายธุรกิจครอบคลุมประเทศจีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม รวมถึงสาขาในอีก 19 ประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ รวมทั้งสิ้นกว่า 470 แห่งทั่วโลก

 

นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2478 ยูโอบีเติบโตอย่างมั่นคง ผ่านกลยุทธ์การควบรวมกิจการและการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากสถาบันชั้นนำระดับโลก ได้แก่ Aa1 จากมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส, AA- จากฟิทช์ เรทติ้งส์ และ AA- จาก S&P Global Ratings

 

ยูโอบีให้ความสำคัญกับการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง พร้อมส่งมอบบริการทางการเงินที่เข้าใจความต้องการเฉพาะบุคคล โดยผสานข้อมูลเชิงลึก นวัตกรรม และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ นอกจากนี้ยังมุ่งมั่นสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมผ่านโครงการด้านศิลปะ เยาวชน และการศึกษา เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกันในภูมิภาคอาเซียนและทั่วโลก

 

เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี ประเทศไทย

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เป็นธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย ให้บริการผ่านเครือข่าย 144 สาขาทั่วประเทศ และเครื่องเบิกเงินสดอัตโนมัติกว่า 343 เครื่อง รวมถึงการเชื่อมต่อกับเครือข่ายเครื่องเบิกเงินสดของธนาคารยูโอบีมากกว่า 56,800 เครื่องทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567)

 

ธนาคารได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากสถาบันจัดอันดับชั้นนำ ได้แก่ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส (อันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะยาวที่ A3) และฟิทช์ เรทติ้งส์ (อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวที่ A- และอันดับความน่าเชื่อถือภายในประเทศระยะยาวที่ AAA(tha))