วช. เปิดเวทีเสวนา “สถานการณ์น้ำท่วม บรรเทาได้ด้วยวิจัยและนวัตกรรม” ชูองค์ความรู้งานวิจัยและนวัตกรรม บรรเทาวิกฤตอุทกภัย

วช. เปิดเวทีเสวนา “สถานการณ์น้ำท่วม บรรเทาได้ด้วยวิจัยและนวัตกรรม” ชูองค์ความรู้งานวิจัยและนวัตกรรม บรรเทาวิกฤตอุทกภัย

   เมื่อ : 15 พ.ย. 2568

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดการเสวนา “สถานการณ์น้ำท่วม บรรเทาได้ด้วยวิจัยและนวัตกรรม” โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานเปิดการเสวนา พร้อมด้วยคณะวิทยากรผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัย ร่วมกิจกรรมเสวนา ณ ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศกลางด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ อาคาร วช. 8

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า ผลกระทบจากพายุช่วงต้นเดือน พย.2568 ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักตอนบนเพิ่มสูงขึ้น ประกอบอ่างเก็บน้ำมีปริมาณน้ำกักเก็บจำนวนมากเพื่อเตรียมเปลี่ยนผ่านฤดู ทำให้มีความจำเป็นต้องเร่งระบายน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณลุ่มเจ้าพระยา มีผลกับพื้นที่ภาคกลางตอนบนต้องเผชิญกับวิกฤตอุทกภัยในหลายจังหวัด อาทิ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงหบุรี ชัยนาท วช. พร้อมด้วยทีมนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกันสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการ องค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อลดผลกระทบจากอุทกภัย บรรเทาความเดือนร้อนของประชาชน รวมทั้งการถอดบทเรียนจากสถานการณ์เพื่อเป็นแนวทางในการเฝ้าระวังภัยพิบัติ

การเสวนา เรื่อง “สถานการณ์น้ำท่วม บรรเทาได้ด้วยวิจัยและนวัตกรรม” ได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ ผู้อำนวยการแผนงานเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ ววน. ประเด็นน้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง ของ วช. เป็นผู้ดำเนินการเสวนา พร้อมด้วยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายหน่วยงานร่วมเสวนาใน 2 ช่วง ดังนี้

ช่วงที่ 2: นวัตกรรมและสถานการณ์เร่งด่วน
รองศาสตราจารย์ ดร.บัญชา ขวัญยืน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สรุปบทเรียน และข้อเสนอแนะในการบริหารจัดการน้ำ คือการสร้างการรับรู้ความเสี่ยงและการสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายในการติดตาม เฝ้าระวัง และรับมือภัยด้านน้ำ และถึงแม้ว่าเราจะมีการเตรียมทุ่งรับน้ำในพื้นที่ไว้ แต่ต้องมีการสร้างความเข้าใจอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความแปรปรวนในปัจจุบัน ทำให้ต้องมีการยกระดับการจัดการตามสถานการณ์

ส่วนของการใช้โดรนสำรวจและช่วยเหลือเมื่อเกิดสถานการณ์เร่งด่วน นายธีรวัติ ศรีประโชติ สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ให้ข้อมูลว่า มีการนำโดรนมาช่วยในการสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานในพื้นที่ โดย วช. มีการจัดตั้งศูนย์ให้ความรู้โดยร่วมกับมูลนิธิเพื่อนพึ่งภายามยาก และมีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ที่สอบใบขับขี่โดรน เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนบุคลากร เนื่องจากในบางพื้นที่จำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม เพื่อป้องกันการชนและทำให้การทำงานสะดวกขึ้น  

รองศาสตราจารย์ ดร.คเณศ วงษ์ระวี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ยกตัวอย่าง นวัตกรรมที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเมื่อเกิดเหตุ อาทิ สารประกอบทองแดงที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งประยุกต์จากการใช้งานในผลิตภัณฑ์การเกษตร มาช่วยต้านเชื้อราที่มากับความชื้นเมื่อเกิดอุทกภัย ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพกับประชาชน โดยเฉพาะในโรงเรียน

ทั้งนี้ วช. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมจะเป็นพลังสำคัญในการบรรเทาผลกระทบจากความรุนแรงของอุทกภัย  และเสริมประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำของประเทศในระยะยาว เพื่อให้ประเทศไทยสามารถรับมือกับปัญหาน้ำท่วมในเขตเมือง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ