Nium แพลตฟอร์มผู้ให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระหว่างประเทศ ร่วมกับวีซ่า นำร่องการชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์ (stablecoin) เปิดทางเลือกใหม่สำหรับการชำระเงินระหว่างประเทศ
Nium แพลตฟอร์มผู้ให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระหว่างประเทศ ร่วมกับวีซ่า นำร่องการชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์ (stablecoin) เปิดทางเลือกใหม่สำหรับการชำระเงินระหว่างประเทศ
กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 18 พฤศจิกายน 2568: Nium ผู้นำระดับโลกด้านบริการชำระเงินระหว่างประเทศแบบเรียลไทม์ ได้ประกาศเข้าร่วมโครงการนำร่องใหม่ของวีซ่าคือการทดลองให้พาร์ทเนอร์ที่ได้รับเลือกอย่าง Niumสามารถให้บริการชำระเงินผ่านวีซ่าด้วยสเตเบิลคอยน์ได้โดยตรงผ่านระบบบล็อกเชนที่รองรับ
การนำสเตเบิลคอยน์มาใช้ในระบบของ Nium ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยยกระดับการโอนเงินระหว่างประเทศให้ทันสมัยขึ้น ซึ่งจะทำให้การชำระเงินมีทั้งความรวดเร็วยิ่งขึ้น ปลอดภัยกว่าเดิม และยังสามารถตั้งโปรแกรมหรือกำหนดเงื่อนไขการชำระเงินล่วงหน้าได้อีกด้วย
การเข้าร่วมโครงการกับวีซ่าในครั้งนี้ ช่วยต่อยอดศักยภาพให้ Nium อย่างมาก เพราะทำให้การชำระระหว่างประเทศไม่จำกัดเพียงแค่เงินเฟียตอีกต่อไป แต่สามารถรับชำระด้วยสเตเบิลคอยน์ได้โดยตรง รวมถึงเหรียญ USDC ที่ออกโดย Circle ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางการชำระเงินดิจิทัลกับวีซ่าที่สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะเปลี่ยนจากการชำระเงินแบบเก่าที่ต้องรอประมวลผลเป็นรอบ มาเป็นการใช้สเตเบิลคอยน์บนบล็อกเชน ช่วยลดอุปสรรคและลดความล่าช้าในการชำระเงินข้ามพรมแดน อาทิ การงดให้บริการในช่วงสุดสัปดาห์ ความล่าช้าจากเขตเวลาที่ต่างกัน และขั้นตอนการกระทบยอดที่ใช้เวลานาน
อเล็กซ์ จอห์นสัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการชำระเงินของ Nium กล่าวว่า ”การที่ Nium เข้าร่วมโครงการนำร่องของ วีซ่า ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการเคลื่อนย้ายเงินระดับองค์กร ที่ผ่านมาภาคธุรกิจถูกจำกัดด้วยรอบการชำระเงินที่ขึ้นอยู่กับธนาคาร ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเร็วของการค้าขายทั่วโลก การใช้สเตเบิลคอยน์ชำระเงินกับวีซ่าจะทำให้การจ่ายเงินของเราเร็วเทียบเท่าความเร็วอินเทอร์เน็ต ไม่ใช่ความเร็วของระบบเดิมๆ อีกต่อไป”
นิชชินท์ สังฮาวี หัวหน้าฝ่ายสกุลเงินดิจิทัล วีซ่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ”สเตเบิลคอยน์กำลังจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการโอนเงินในยุคปัจจุบัน โครงการนำร่องของเราถูกออกแบบมาเพื่อให้พาร์ทเนอร์มีศักยภาพในการทำธุรกรรมได้ตลอด 7 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้ก้าวทันโลกการค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ วีซ่ายินดีที่ได้ขยายความร่วมมือกับ Nium เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เหล่านี้เสริมแกร่งให้กับภาคธุรกิจในระบบนิเวศการเงินต่อไป”
Nium มีโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์อยู่แล้ว ทำให้การเข้าร่วมโครงการนำร่องครั้งนี้กับวีซ่าจะช่วยให้ลูกค้าและบริษัทฟินเทคต่าง ๆ สามารถเชื่อมต่อกับช่องทางการชำระเงินดิจิทัลที่รวดเร็วยิ่งขึ้นได้เลย โดยไม่ต้องสร้างระบบสเตเบิลคอยน์ของตัวเอง
ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการต่อยอดจากที่วีซ่า และ Niumได้ทำงานร่วมกันมาหลายปีเพื่อพัฒนาระบบการชำระเงินระหว่างประเทศให้ทันสมัย สำหรับประเทศไทย โครงการนี้จะช่วยเร่งผลักดันให้ไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจดิจิทัลได้เร็วขึ้น ปลดล็อกการทำธุรกิจข้ามพรมแดนและการโอนเงินกลับประเทศ สามารถชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์ที่ รวดเร็ว ไร้รอยต่อ และทำได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
เกี่ยวกับ Nium
Nium (เนียม) ก่อตั้งขึ้นด้วยพันธกิจในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินระดับโลกสำหรับอนาคตตั้งแต่วันนี้ เมื่อเศรษฐกิจแบบออนดีมานด์ถือกำเนิดขึ้น แพลตฟอร์มเดียวสำหรับการชำระเงินและการออกบัตรทั่วโลกของเนียมได้เข้ามากำหนดแนวทางการชำระเงินและการรับเงินข้ามพรมแดนของธนาคาร บริษัทฟินเทค และธุรกิจทั่วโลก โดยเครือข่ายการชำระเงินของเนียมรองรับ 100 สกุลเงิน และครอบคลุมมากกว่า 190ประเทศ ซึ่ง 100 ประเทศในจำนวนนี้เป็นแบบเรียลไทม์ โดยสามารถชำระเงินเข้าบัญชี กระเป๋าเงิน และบัตร ตลอดจนรับเงินในตลาด 35 แห่ง ปัจจุบัน ธุรกิจการออกบัตรที่กำลังเติบโตของเนียมมีให้บริการแล้วใน 34ประเทศ นอกจากนี้ เนียมยังมีใบอนุญาตทำธุรกิจตามระเบียบข้อบังคับในกว่า 40 ประเทศ ทำให้สามารถเริ่มต้นทำธุรกิจ บูรณาการระบบ และปฏิบัติตามข้อกำหนดได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม ทั้งนี้ บริษัทมีสำนักงานใหญ่ร่วมในซานฟรานซิสโกและสิงคโปร์ โดยมีสำนักงานประจำภูมิภาคในลอนดอน อัมสเตอร์ดัม ฮ่องกง มุมไบ บังคาลอร์ และเจนไน