ผู้เชี่ยวชาญเผยตัวอย่างเทคโนโลยีและไอเดียสร้างเมืองเศรษฐกิจหมุนเวียน จากเวทีนานาชาติ “Sustainability Week Asia” ที่กรุงเทพฯ

ผู้เชี่ยวชาญเผยตัวอย่างเทคโนโลยีและไอเดียสร้างเมืองเศรษฐกิจหมุนเวียน จากเวทีนานาชาติ “Sustainability Week Asia” ที่กรุงเทพฯ

เมื่อเร็วๆ นี้ ในการเสวนา “การสร้างเมืองภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน” ในงาน Sustainability Week Asia 2025 ครั้งที่ 4 จัดโดย“ดิ อีโคโนมิสต์ อิมแพค” ที่กรุงเทพฯ ผู้เข้าร่วมอภิปรายจากนานาชาติได้แลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ในการนำแนวทางต่างๆ มาสนับสนุนให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในเขตเมืองของประเทศในเอเชีย โดยผู้แทนจากบริษัท ดาว (Dow) ซึ่งเป็นผู้นำด้านวัสดุศาสตร์และบรรจุภัณฑ์ ได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของเทคโนโลยีการรีไซเคิลขั้นสูงในการเปลี่ยนขยะพลาสติกให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่า และการมีส่วนร่วมของชุมชนในการสนับสนุนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยผู้ร่วมเสวนาคนอื่นๆ ต่างเห็นพ้องกันว่า นอกจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความร่วมแรงร่วมใจจากชุมชนแล้ว การมีนโยบายที่สนับสนุนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในระดับชาติและการให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการขยะ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนในอนาคต

นายบัมบัง จันดรา รองประธานฝ่ายธุรกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ธุรกิจบรรจุภัณฑ์และพลาสติกชนิดพิเศษ ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท ดาว (Dow) กล่าวในงานเสวนาว่า การเปลี่ยนจากเศรษฐกิจเส้นตรงที่ใช้ทรัพยากรแล้วทิ้ง ไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนนั้นเป็นเรื่องท้าทาย โดยนวัตกรรมและเทคโนโลยีการรีไซเคิลที่ก้าวหน้า นโยบายการจัดการขยะแบบบูรณาการ และการมีส่วนร่วมของชุมชน เป็นปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแปลงนี้
นายบัมบังกล่าวว่า “การสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อโครงสร้างพื้นฐานยังไม่พร้อม แต่เราต้องเริ่มลงมือทำเลย”
นายบัมบังซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีการรีไซเคิลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้ยกตัวอย่างธุรกิจคัดแยกขยะในจีนที่ใช้ “ถังขยะอัจฉริยะ” หรือ “Smart Bin” ซึ่งสามารถระบุและชั่งน้ำหนักขยะ คัดแยก และตีราคาขยะเป็นเงิน โดยเครดิตการซื้อขายขยะจะส่งตรงไปยังบัญชีของเจ้าของขยะผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งนอกจากจะสร้างมูลค่าให้ขยะรีไซเคิลแล้ว ยังส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยมีการติดตั้งถังขยะอัจฉริยะประมาณ 31000 ถังใน 38 เมืองใหญ่ของจีน เช่น เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และกวางโจว
ความสำเร็จของ Smart Bin แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มอัตราการเก็บและคัดแยกขยะ และส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการจัดการขยะ
นายบัมบังกล่าวว่า “เทคโนโลยี Smart Bin ช่วยกระตุ้นให้ผู้คนมีส่วนร่วมในการจัดการขยะในเมืองซึ่งมีความสำคัญในการสร้างนิเวศเศรษฐกิจหมุนเวียน”
นายบัมบังยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า บริษัท ดาว (Dow) ได้ใช้ประโยชน์จากถังขยะอัจฉริยะนี้ในการตรวจสอบย้อนกลับวัตถุดิบที่เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเชิงกลขั้นสูง เพื่อผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลจากพลาสติกที่ผ่านการใช้งานแล้ว โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย โดยผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกรีไซเคิลของ Dow สามารถรีไซเคิลได้แบบเดียวกับเม็ดพลาสติกที่มีโครงสร้างชั้นเดียว(single pellet) และยังคงประสิทธิภาพตามที่ต้องการ ซึ่งการผลิตและใช้เม็ดพลาสติกรีไซเคิลจะช่วยลดขยะพลาสติก ลดการผลิตเม็ดพลาสติกใหม่ ลดการใช้พลังงาน และลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก
การสนับสนุนแนวทางถังขยะอัจฉริยะของบริษัท ดาว (Dow) เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือของทุกฝ่าย ตั้งแต่ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกไปจนถึงผู้ประกอบการรีไซเคิล เพื่อให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนและผลักดันเป้าหมายด้านความยั่งยืน
ด้านผู้ร่วมเสวนาคนอื่นๆ ต่างเห็นพ้องถึงความจำเป็นของความร่วมมือในทุกภาคส่วน รวมถึงการกำหนดกรอบการทำงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนในระดับชาติ และการยกระดับการศึกษาด้านการจัดการขยะในการสร้างอนาคตแบบหมุนเวียน

นางแซนดี้ คูมาร์ จากโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ (UN-Habitat)สำนักงานระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประจำกรุงเทพฯ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการกำหนดกรอบการทำงานระดับชาติ โดยสนับสนุนให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมกันนำเทคโนโลยีและแนวทางใหม่ๆ มาใช้ในการจัดการกับปัญหามลพิษจากขยะ นางแซนดี้ยังกล่าวถึงเครื่องมือ Waste Wise Cities Tool (WaCT) ของสหประชาชาติซึ่งมี 7 ขั้นตอนในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับขยะมูลฝอยชุมชน ตั้งแต่การเก็บรวบรวมไปจนถึงการจัดการในโรงงาน ซึ่งเป็นฐานข้อมูลสำหรับการสร้างเมืองเศรษฐกิจหมุนเวียน

บนเวทีเสวนา นางโอลิเวีย หว่อง ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม บริษัทขนส่ง MTR Corporation ของฮ่องกง ตัวแทนภาคการขนส่งได้แบ่งปันมุมมองว่า แม้ภาคขนส่งไม่ใช่ผู้ผลิตขยะโดยตรง แต่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันแนวคิดเมืองเศรษฐกิจหมุนเวียน เนื่องจากภาคการขนส่งเข้าถึงผู้คนและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อยู่อาศัยในเมืองจำนวนมาก ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะจึงมีศักยภาพในการให้ความรู้แก่ผู้โดยสารหลายล้านคนในแต่ละวันในเรื่องการจัดการขยะและวงจรรีไซเคิล และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนเมืองในเรื่องรีไซเคิล โดยนางโอลิเวียได้เล่าถึงโครงการความริเริ่มต่างๆ ในฮ่องกง เช่น การให้ความรู้แก่ผู้โดยสารและพนักงานเกี่ยวกับการแยกขยะ และการนำตู้รถไฟและชิ้นส่วนที่ปลดระวางแล้วมาใช้ใหม่เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาในโรงเรียน ซึ่งนอกจากจะลดปริมาณขยะ ยังสร้างความตระหนักรู้และปลูกฝังคุณค่าของทรัพยากรในหมู่เยาวชน

นายยูทากะ มิคามิ ผู้จัดการฝ่ายความร่วมมือเพื่อการพัฒนา สำนักกิจการระหว่างประเทศ เมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า เมืองโยโกฮาม่า เป็นตัวอย่างของความสำเร็จในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในเมืองใหญ่ โดยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและประชาชนในท้องถิ่นเพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องการแยกขยะ ผ่านโครงการรณรงค์และเวิร์กช็อปด้านการศึกษาจำนวนมาก โยโกฮาม่าส่งเสริมให้นักเรียนและผู้ปกครองแยกขยะในครัวเรือน ส่งเสริมวัฒนธรรมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตั้งแต่เด็ก ซึ่งเมืองโยโกฮาม่าได้แบ่งปันประสบการณ์และความสำเร็จในการรีไซเคิลให้กับเมืองต่างๆ ในเอเชีย รวมถึงเมืองในฟิลิปปินส์และไทย โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทแห่งญี่ปุ่น (JICA) และธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB)
ในช่วงท้ายของการเสวนา ผู้เชี่ยวชาญต่างยอมรับว่าระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในเอเชียยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจเส้นตรงแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม เวทีเสวนาระดับภูมิภาคนี้ได้เรียกร้องให้ทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมร่วมมือกันสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจหมุนเวียนในเอเชียให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป
เกี่ยวกับ ‘ดาว’
Dow (NYSE: DOW) เป็นหนึ่งในบริษัทวัสดุศาสตร์ชั้นนำของโลกที่ให้บริการลูกค้าในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง อาทิ บรรจุภัณฑ์ โครงสร้างพื้นฐาน ยานยนต์ และสินค้าอุปโภคบริโภค ความเป็นบริษัทระดับโลกที่มีโรงงานขนาดใหญ่และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ พร้อมด้วยความเป็นผู้นำทางธุกิจและความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืน ช่วยให้เราบรรลุการเติบโตอย่างมีผลกำไรและสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืน ปัจจุบัน Dowมีฐานการผลิตใน 30 ประเทศและมีพนักงานประมาณ 36000 คน โดยมียอดขายประมาณ 43000 ล้านดอลลาห์สหรัฐในปี 2567
ทั้งนี้ การอ้างอิงถึง Dow หรือบริษัทฯ นั้นจะหมายความถึง Dow Inc. และบริษัทในเครือ โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเราและความมุ่งมั่นในการเป็นบริษัทวัสดุศาสตร์ชั้นนำของโลกในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน ด้วยการทำงานที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และให้การยอมรับบุคคลากรที่มีความหลากหลายได้ที่ www.dow.com
เกี่ยวกับ ‘กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย’
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow Thailand Group) เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 และได้ร่วมกับ เอสซีจี ก่อตั้งกลุ่มบริษัทร่วมทุนเอสซีจี-ดาว ในปี พ.ศ. 2530 (ในปี 2565 เอสซีจี เคมิคอลส์ ได้รีแบรนด์เป็น เอสซีจีซี) โดยในปัจจุบัน กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ประกอบด้วยบริษัทซึ่ง Dow เป็นเจ้าของเพียงผู้เดียว และกลุ่มบริษัทร่วมทุนเอสซีจีซี-ดาว นอกจากนี้ ยังมีบริษัทร่วมทุนระหว่าง Dow และ โซลเวย์ ปัจจุบันประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของ ดาว ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยมีโรงงานหลายแห่งตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง ตลาดหลักของกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทยได้แก่ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ การก่อสร้าง และยานยนต์ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้ที่ https://www.dowfamilythailand.com/th/about_us.php หรือติดตามเฟซบุ๊ก www.facebook.com/DowThailandGroup/