สหรัฐฯ ลดภาษีตอบโต้จีน 90 วัน ปูทางสู่การเจรจาการค้า การส่งออกจีนไปสหรัฐฯ คาดเร่งตัวขึ้นชั่วคราว (ศูนย์วิจัยกสิกรไทย)

สหรัฐฯ ลดภาษีตอบโต้จีน 90 วัน ปูทางสู่การเจรจาการค้า การส่งออกจีนไปสหรัฐฯ คาดเร่งตัวขึ้นชั่วคราว (ศูนย์วิจัยกสิกรไทย)
ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนบรรเทาลง หลังในวันที่ 12 พ.ค. 2568 สหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงทางการค้าเบื้องต้นที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีรายละเอียดสำคัญจากฝั่งสหรัฐฯ ดังนี้
1.สหรัฐฯ จะปรับลดภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariffs) กับสินค้านำเข้าจากจีนเป็นระยะเวลา 90 วัน ลดลงมาอยู่ที่ 10% จากเดิมที่ 125% ขณะที่ภาษีที่เรียกเก็บจากข้อกล่าวหาเรื่องเฟนทานิลที่อัตรา 20% ยังคงอยู่ ส่งผลให้ภาษีสินค้านำเข้าที่สหรัฐฯ เก็บจากจีนหลังทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 30% (รูปที่ 1) มีผลบังคับใช้วันที่ 14 พ.ค. 2568 ทั้งนี้ ภาษีรายสินค้าตามมาตรา 232 ยังคงไว้ที่ 25% เช่น เหล็กอะลูมิเนียม รถยนต์และส่วนประกอบ
2. ปรับลดอัตราภาษีสินค้านำเข้าขนาดเล็ก (De Minimis) ลงมาอยู่ที่ 54% หรือ 100 ดอลลาร์ฯ/พัสดุ จากเดิมที่มีผลบังคับใช้เมื่อ 2 พ.ค. 68 จัดเก็บภาษีที่ 120%หรือ 200 ดอลลาร์ฯ/พัสดุ
3. นอกจากนี้ ในข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้มีการระบุถึงเรื่องการเก็บค่าธรรมเนียมเรือที่เป็นสัญชาติจีนและดำเนินการโดยผู้ประกอบการจีน โดยในประเด็นนี้จะยังมีผลบังคับใช้ตามเดิมในวันที่ 14 ต.ค.2568 มีอัตราเริ่มต้นที่ 18 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน และจะเพิ่มขึ้นอีกรายปีใน 3 ปี ข้างหน้า
ขณะที่ฝั่งจีนได้ปรับลดภาษีตอบโต้กับสหรัฐฯ ลงมาอยู่ที่ 10% และจะยกเลิกมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff barriers) ที่ประกาศหลัง 2 เม.ย.2568 อาทิ การยกเลิกมาตรการจำกัดการส่งออกธาตุหายาก 7 ชนิด และยกเลิกการคว่ำบาตรธุรกิจสหรัฐฯ บางราย โดยจีนระบุว่า “การเจรจาการค้าครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของปักกิ่ง”
การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และจีนในครั้งนี้ ถือเป็นการบรรลุข้อตกลงที่สามารถปรับลดภาษีได้มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งคาดว่าการส่งออกจากจีนไปสหรัฐฯ จะกลับมาเร่งตัวขึ้นชั่วคราว โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าแต่ยังไม่สามารถส่งออกได้จากอัตราภาษีในระดับสูง ซึ่งในเดือนเม.ย.68 การส่งออกจีนไปสหรัฐฯ ลดลงถึง -21%YoY
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ในปี 2568 ทิศทางการส่งออกจีนไปสหรัฐฯ คาดหดตัวน้อยลงกว่าประมาณการเดิมอยู่ที่ -8% ถึง -10% จากเดิม -30% บนสมมติฐานว่าหลัง 90 วันสหรัฐฯ จะยังเก็บภาษีเพิ่มจากจีนในอัตราใกล้เคียง 30% ซึ่งคาดว่าจะมีการเจรจาเพิ่มเติมระหว่างทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และสี จินผิ้งประธานาธิบดีจีนในสัปดาห์นี้ โดยทรัมป์ระบุว่าอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากจีนจะไม่กลับไปสูงถึง 145% ทั้งนี้ สงครามการค้าที่บรรเทาลงอาจส่งผลให้เศรษฐกิจจีนปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตดีกว่าประมาณการเดิมมาอยู่ที่ 4.2% จาก 3.6% โดยยังขึ้นอยู่กับการเจรจาและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศที่คาดจะทยอยออกมาเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี ความตกลงนี้เป็นการปรับลดภาษีสินค้าจีนเฉพาะในช่วงทรัมป์ 2.0 แต่อัตราภาษีตั้งแต่ทรัมป์ 1.0 ยังไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อรวมกับอัตราภาษีปัจจุบันทำให้จีนยังคงถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีอยู่ที่ 51% ซึ่งนับว่าเป็นอัตราที่สูงกว่าประเทศคู่ค้าสหรัฐฯ รายอื่น ที่ปัจจุบันถูกเก็บ Reciprocal tariffs เพิ่มเพียง 10% ดังนั้น การปรับลดภาษีของสหรัฐฯ ครั้งนี้คาดว่าจะช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นในระยะสั้นทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค ขณะที่ในระยะกลางถึงยาวอัตราภาษีที่อยู่ในระดับสูงจะยังส่งผลให้การค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มปรับลดลง