Dow ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยด้วยนวัตกรรมลดคาร์บอน ชู “ฉลากลดโลกร้อน” ผลิตภัณฑ์สไตรีนโมโนเมอร์ และ โพลีสไตรีน

Dow ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยด้วยนวัตกรรมลดคาร์บอน ชู “ฉลากลดโลกร้อน” ผลิตภัณฑ์สไตรีนโมโนเมอร์ และ โพลีสไตรีน
กรุงเทพฯ – 20 พฤษภาคม 2568 - กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ผู้นำด้านวัสดุศาสตร์ระดับโลก เดินหน้าสานต่อมาตรฐานด้านความยั่งยืน โดย 8 ผลิตภัณฑ์สำคัญในกลุ่มสไตรีนโมโนเมอร์ และ โพลีสไตรีนได้รับการต่ออายุใบรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เป็นปีที่สอง ทำให้ปัจจุบันกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ทั้งสิ้น 33 ผลิตภัณฑ์ และฉลากลดโลกร้อน 26 ผลิตภัณฑ์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์อย่างเป็นรูปธรรม

นายเอกสิทธิ์ ลัคนานิธิพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายธุรกิจร่วมทุน กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการต่ออายุใบรับรองฉลากลดโลกร้อนในครั้งนี้สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่าเกณฑ์ที่องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. กำหนด โดยลดลงมากกว่า 2% จากปีฐาน ครอบคลุมตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบจนถึงกระบวนการผลิต ณ โรงงานของกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง
”กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย เป็นบริษัทวัสดุศาสตร์ชั้นนำที่เป็นต้นน้ำของอุตสาหกรรมจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศ เราจึงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งด้านธุรกิจและสิ่งแวดล้อมควบคู่กัน ด้วยกระบวนการผลิตอันทันสมัยที่ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้พลังงานในโรงงาน เพื่อให้วัตถุดิบจาก Dow มีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ต่ำลง และช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถผลิตสินค้าที่มีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำลงไปด้วยเช่นกัน ซึ่งการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint of Products) และฉลากลดโลกร้อน (Carbon Footprint Reduction) จาก อบก. จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการในการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคาร์บอนต่ำเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนได้ตามที่ตั้งใจ” นายเอกสิทธิ์กล่าวสรุป
เกี่ยวกับ ‘ดาว’
Dow (NYSE: DOW) เป็นหนึ่งในบริษัทวัสดุศาสตร์ชั้นนำของโลกที่ให้บริการลูกค้าในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง อาทิ บรรจุภัณฑ์ โครงสร้างพื้นฐาน ยานยนต์ และสินค้าอุปโภคบริโภค ความเป็นบริษัทระดับโลกที่มีโรงงานขนาดใหญ่และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ พร้อมด้วยความเป็นผู้นำทางธุกิจและความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืน ช่วยให้เราบรรลุการเติบโตอย่างมีผลกำไรและสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืน ปัจจุบัน Dow มีฐานการผลิตใน 30ประเทศและมีพนักงานประมาณ 36000 คน โดยมียอดขายประมาณ 43000 ล้านดอลลาห์สหรัฐในปี 2567
ทั้งนี้ การอ้างอิงถึง Dow หรือบริษัทฯ นั้นจะหมายความถึง Dow Inc. และบริษัทในเครือ โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเราและความมุ่งมั่นในการเป็นบริษัทวัสดุศาสตร์ชั้นนำของโลกในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน ด้วยการทำงานที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และให้การยอมรับบุคคลากรที่มีความหลากหลายได้ที่ www.dow.com
เกี่ยวกับ ‘กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย’
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow Thailand Group) เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 และได้ร่วมกับบริษัท เอสซีจี ก่อตั้งกลุ่มบริษัทร่วมทุนเอสซีจี-ดาว ในปี พ.ศ. 2530 (ในปี 2565 เอสซีจี เคมิคอลส์ ได้รีแบรนด์เป็น เอสซีจีซี) โดยในปัจจุบัน กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ประกอบด้วยบริษัทซึ่ง Dow เป็นเจ้าของเพียงผู้เดียว และกลุ่มบริษัทร่วมทุนเอสซีจีซี-ดาว นอกจากนี้ ยังมีบริษัทร่วมทุนระหว่าง Dow และ โซลเวย์ ปัจจุบันประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของ ดาว ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยมีโรงงานหลายแห่งตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง ตลาดหลักของกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทยได้แก่ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ การก่อสร้าง และยานยนต์ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้ที่ https://www.dowfamilythailand.com/th/about_us.phpหรือติดตามเฟซบุ๊ก www.facebook.com/DowThailandGroup/