แยกขยะแล้วไปไหน? บทพิสูจน์ ‘ไม่เทรวม’ ลดขยะฝังกลบ ยกระดับชีวิตชุมชน ปูทางสู่ศูนย์คัดแยกต้นแบบ

แยกขยะแล้วไปไหน? บทพิสูจน์ ‘ไม่เทรวม’ ลดขยะฝังกลบ ยกระดับชีวิตชุมชน ปูทางสู่ศูนย์คัดแยกต้นแบบ

   เมื่อ : 9 ต.ค. 2568

กรุงเทพมหานครผลิตขยะเฉลี่ยวันละ 9,000 ตัน โดยขยะส่วนใหญ่ถูกส่งไปฝังกลบอย่างไร้ค่า กลายเป็นต้นตอของปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เรื้อรัง “การแยกขยะ” จึงเป็นคำตอบของการแก้ปัญหาที่ต้นทาง

 

กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่มีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน ในฐานะของสมาชิกโครงการความร่วมมือภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม เพื่อจัดการพลาสติก และขยะอย่างยั่งยืน หรือ PPP Plastics ได้ร่วมมือกับกรุงเทพมหานครและภาคีเครือข่าย ในการสนับสนุน “โครงการมือวิเศษกรุงเทพฯ” ตั้งจุดรับขยะพลาสติก 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ เพื่อรวบรวมขยะที่ประชาชนคัดแยก โดยเปิดรับพลาสติกทุกประเภทที่ล้างสะอาดและตากแห้ง พร้อมเพิ่ม “ตะแกรงขยะกำพร้า” เพื่อรองรับขยะพลาสติกที่ไม่มีมูลค่าในตลาด

เกศทิพย์ หาญณรงค์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ บริษัท ซีโร่ เวสท์ โยโล จำกัด (YOLO) ซึ่งเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมด้านการจัดการขยะ กล่าวว่า “ต่างประเทศมีกฎหมายบังคับให้ประชาชนต้องแยกขยะ แต่ประเทศไทยยังไม่มี ใครที่อยากทำ สามารถเริ่มทำด้วยตัวเองก่อน คัดแยก ทำความสะอาด แล้วส่งมาที่สำนักงานเขต เดี๋ยวจะมีคนจัดการต่อให้เอง”

พลาสติก 3 กลุ่ม: แยกให้ถูก สร้างคุณค่าใหม่

1. พลาสติกที่มีมูลค่าสูง เช่น ขวด PET ใส ที่มีคนเก็บเป็นประจำและเข้าสู่ระบบรีไซเคิลอยู่แล้ว

2. พลาสติกที่มีมูลค่าแต่คนทั่วไปไม่รู้ เช่น ถุงยืด ฟิล์มหุ้มแพคขวดน้ำ ถุงขนมปัง ถุงข้าวสาร — มีผู้รับ

รีไซเคิล แต่คนทั่วไปมักไม่แยก สามารถส่งมาได้ที่จุดรับโครงการมือวิเศษ และ วน (Won)

3. พลาสติกกำพร้า เช่น กล่องข้าวพลาสติกหลากสี ช้อนส้อมพลาสติก ฝาขวดน้ำ แก้วกาแฟพิมพ์ลาย ขวดนมเปรี้ยว แก้วโยเกิร์ต กล่องนม ถุงขนมวิบวับ — ไม่มีใครรับซื้อ “ตะแกรงพลาสติกกำพร้า” จึงถูกเพิ่มขึ้นมาเพื่อรองรับขยะกลุ่มที่ 3 โดยเฉพาะ 

ขยะพลาสติกจากจุดรับมือวิเศษจะถูกส่งต่อไปยัง “ศูนย์คัดแยกขยะชุมชนกองขยะหนองแขม” ซึ่งเป็นศูนย์คัดแยกขยะโดยชุมชนที่ดำเนินการร่วมกับ YOLO โดยมีทีมงาน 7 คน ส่วนใหญ่เป็นแม่บ้านและผู้สูงอายุในชุมชนที่เคยคุ้ยขยะมาก่อน

อุบล โพธิกราน วัย 57 ปี เล่าว่า “เมื่อก่อนต้องคุ้ยขยะทั้งวันทั้งคืน กว่าจะได้เงิน 500 บาท พออายุมากขึ้น สุขภาพไม่ดี ก็ทำไม่ไหว จนได้มาทำงานนี้ ไม่เหนื่อยเหมือนแต่ก่อน ภูมิใจที่หาเลี้ยงตัวเองได้”

 

ปัจจุบัน ศูนย์คัดแยกขยะชุมชนกองขยะหนองแขม รับขยะพลาสติกเฉลี่ยเดือนละ 3 – 3.5 ตัน โดยนอกจากมาจากจุดรับโครงการมือวิเศษ ยังมีขยะจากโครงการวน (Won) และภาคีเครือข่ายในโมเดล “บวร” (บ้าน–วัด–โรงเรียน) ที่ส่งมาคัดแยกที่นี่ด้วย

 

ขยะพลาสติกที่คัดแยกแล้วจะถูกส่งต่อไปยัง 3 ปลายทาง ได้แก่:

• Upcycle – พลาสติกกำพร้าถูกนำไปผลิตเป็นสินค้าในชีวิตประจำวัน อาทิ จานรองแก้ว ปากกา ที่รองเขียน พวงกุญแจ แว่นตา เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ  ฯลฯ หรือแม้กระทั่งเหรียญรางวัล โล่รางวัลให้องค์กรเอกชน ที่ฐานผลิตของ YOLO ที่ชุมชนบ้านเงินทอง อ.ไทรน้อย จ. นนทบุรี

• Recycle – พลาสติกที่รีไซเคิลได้ เช่น พลาสติกยืด นำไปผลิตเป็นถุงขยะใหม่

• เชื้อเพลิงขยะ (RDF) – พลาสติกที่รีไซเคิลไม่ได้ เช่น พลาสติกบางแบบไม่ยืด ถูกส่งไปเผาเป็นพลังงานในโรงไฟฟ้าขยะ

ขยะกำพร้ายังถูกนำไปสร้างสรรค์ในโลกแฟชั่น เช่น แบรนด์ Pipatchara ที่ร่วมกับ YOLO (ในปี 2562-2567) ผลิตชุดจากฝาขวดน้ำ ขวดยาคูลท์ ฯลฯ ซึ่งลิซ่า BLACKPINK เคยสวมใส่

 

เกศทิพย์ เล่าถึงช่วงเวลาสำคัญว่า “ตอนนั้นเราเปิดภาพลิซ่าให้ลุงป้าที่ชุมชนไทรน้อยดู ทุกคนมีสีหน้าภูมิใจมากที่รู้ว่าขยะที่เราคัดแยกอย่างตั้งใจกลายไปเป็นชุดของศิลปินระดับโลก”

2 ปีที่ผ่านมา ศูนย์คัดแยกขยะชุมชนกองขยะหนองแขมกำลังรับขยะเกินศักยภาพ เป็นสัญญาณว่า “ประชาชนพร้อมแล้ว แต่โครงสร้างพื้นฐานยังตามไม่ทัน” กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) จึงร่วมกับมูลนิธิมือวิเศษ และพันธมิตรผลักดัน “หนองแขมโมเดล” เพื่อสนับสนุนการจัดตั้ง “ศูนย์นวัตกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อการจัดการและแปรรูปวัสดุรีไซเคิลครบวงจร (Material Recovery Facility, MRF)” แห่งแรกของกรุงเทพฯ ที่รองรับขยะสะอาดได้มากกว่า 40 ตันต่อวัน ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

 

คำตอบจากหนองแขมวันนี้ คือบทพิสูจน์ว่า “ไม่เทรวม” คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนอนาคตเมือง ขอแค่ทุกคนเริ่มต้นที่บ้าน ขยะที่เคยไร้ค่า ก็สามารถกลับมาสร้างคุณค่าใหม่ได้จริง

เกี่ยวกับ ‘ดาว’

Dow (NYSE: DOW) เป็นหนึ่งในบริษัทวัสดุศาสตร์ชั้นนำของโลกที่ให้บริการลูกค้าในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง อาทิ บรรจุภัณฑ์ โครงสร้างพื้นฐาน ยานยนต์ และสินค้าอุปโภคบริโภค ความเป็นบริษัทระดับโลกที่มีโรงงานขนาดใหญ่และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ พร้อมด้วยความเป็นผู้นำทางธุกิจและความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืน ช่วยให้เราบรรลุการเติบโตอย่างมีผลกำไรและสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืน ปัจจุบัน Dow มีฐานการผลิตใน 31ประเทศและมีพนักงานประมาณ 35,900 คน โดยมียอดขายประมาณ 45,000 ล้านดอลลาห์สหรัฐในปี 2566

 

ทั้งนี้ การอ้างอิงถึง Dow หรือบริษัทฯ นั้นจะหมายความถึง Dow Inc. และบริษัทในเครือ โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเราและความมุ่งมั่นในการเป็นบริษัทวัสดุศาสตร์ชั้นนำของโลกในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน ด้วยการทำงานที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และให้การยอมรับบุคคลากรที่มีความหลากหลายได้ที่ www.dow.com

 

เกี่ยวกับ ‘กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย’

กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow Thailand Group) เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 และได้ร่วมกับบริษัท เอสซีจี ก่อตั้งกลุ่มบริษัทร่วมทุนเอสซีจี-ดาว ในปี พ.ศ. 2530 (ในปี 2565 เอสซีจี เคมิคอลส์ ได้รีแบรนด์เป็น เอสซีจีซี) โดยในปัจจุบัน กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ประกอบด้วยบริษัทซึ่ง Dow เป็นเจ้าของเพียงผู้เดียว และกลุ่มบริษัทร่วมทุนเอสซีจีซี-ดาว นอกจากนี้ ยังมีบริษัทร่วมทุนระหว่าง Dow และ โซลเวย์ ปัจจุบันประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของ ดาว ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยมีโรงงานหลายแห่งตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง ตลาดหลักของกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทยได้แก่ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ การก่อสร้าง และยานยนต์ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้ที่ https://www.dowfamilythailand.com/th/about_us.phpหรือติดตามเฟซบุ๊ก www.facebook.com/DowThailandGroup/

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ